Pages

Subscribe:

Knowledge is Power

สะสมความรู้ได้ทุกวัน
Powered by Blogger.

Blog Archive

Tuesday, December 27, 2011

ล้างหน้าและดูแลผิวอย่างถูกวิธี ก็ช่วยสร้างผิวสวยได้นะ

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ล้างหน้า อาจแบ่งได้เป็น โฟม เจล โลชั่น water-soluble cleansing milks และ oil-free cleansing lotion
โฟมคือสบู่เหลวผสมครีม เหมาะสำหรับผิวธรรมดาเพราะมีความอ่อนโยนต่อผิวปกติ แต่ก็แรงพอที่จะใช้กับผิวมันในบริเวณ T-Zone และให้ความชุ่มชื้นได้พอควร
เจล จะไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมจึงล้างออกง่าย และมีความเป็นด่างน้อยกว่าสบู่ มีส่วนผสมของ AHAs หรือ BHA จึงเหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม
โลชั่น (สำหรับล้างหน้า) เหมาะสำหรับคนผิวแห้งหรือแพ้ง่าย เพราะมีสารให้ความชุ่มชื้นเคลือบผิวหนังอยู่เมื่อล้างด้วยน้ำเปล่าจะยังรู้สึกว่าผิวลื่น
water-soluble cleansers และ cleansing milks ใช้ได้กับผิวทุกชนิด เพราะไม่ระคายเคือง ส่วน oil-free cleansing lotions เหมาะสำหรับผิวผสม
การล้างหน้าอย่างถูกวิธี ทำเพียงวันละ 2 ครั้งในตอนเช้าและก่อนเข้านอนก็เพียงพอ ยกเว้นถ้ามีเหงื่อออกมากระหว่างวัน หรือออกกำลังกายค่อยล้างเพิ่ม
 ถ้าผิวบริเวณหน้าผากจมูกและคางเริ่มมันภายใน 2 ชั่วโมงหลังล้างหน้าถือว่าเป็นผิวมัน ถ้าผิวบริเวณหน้าผากจมูกและคางมันแต่แก้มแห้งถือว่าเป็นผิวผสม
ใช้น้ำธรรมดา (ไม่อุ่นหรือร้อนจนเกินไป) ล้างหน้า เพราะการใช้น้ำร้อนยิ่งทำให้ผิวแห้ง เกิดการระคายเคืองง่ายขึ้น
ใช้น้ำเย็นจัดล้างหน้าจะช่วยกระชับรูขุมขนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งผิวจะตอบสนองต่อความเย็นเพียงไม่กี่นาที รูขุมขนก็จะกลับมาเหมือนเดิม
หลังล้างหน้าควรทา moisturizer ทันที เพราะหน้าจะดูดซึม moisturizer ได้มากขึ้นหลังผิวเปียกน้ำ คนผิวมันอาจทา toner ก่อนก็ได้เพื่อควบคุมความมัน
การนวดครีมลงบนหน้าหรือนวดหน้าไปพร้อมกับทาครีม ไม่ได้ทำให้ครีมซึมลงในผิวหน้ามากขึ้น ควรทาครีมลงบนหน้าหลังล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ ครีมจะซึมลงดีขึ้น
คนผิวผสมอาจเพิ่มการทา moisturizer บริเวณแก้มซึ่งแห้งกว่าปกติ และใช้ toner เฉพาะบริเวณ T-Zone เพื่อควบคุมความมันบริเวณนั้น
การขัดหน้า (scrub) ผิวหน้าบ่อย ๆ ทำให้เกิดการระคายเคืองง่ายขึ้น จึงไม่ควรขัดหน้าบ่อยกว่า 1 ครั้ง / 1-2 สัปดาห์
มีความเชื่อที่ผิดว่าการล้างหน้าจะต้องขัดขี้ไคลออกจนหมด ที่จริงขี้ไคลคือผิวหนังกำพร้าชั้นนอกสุดของเรารวมกับน้ำมันเคลือบผิวคอยป้องกันฝุ่นละออง
โดยธรรมชาติผิวหนังกำพร้า(ขี้ไคล)ของคนเราจะหลุดออกมาเองทุกวัน และจะพาเอาฝุ่นละอองที่เคลือบผิวอยู่ออกมาด้วยจึงไม่จำเป็นต้องออกแรงถูหน้าตอนล้าง


การทำความสะอาดเครื่องสำอางรอบดวงตา ทำโดยใช้สำลีแผ่นตัดขอบเรียบ ชุบ cleanser เช็ดรอบดวงตาเบาๆ ถ้าเช็ดแรงอาจทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้

สมุนไพร ผัก ผลไม้ ไข่แดง น้ำผึ้ง นม ของที่ส่วนใหญ่กินได้อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ โปรตีน น้ำตาล และสารธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ
การนำสมุนไพร ผัก ผลไม้ มาใช้บำรุงผิวนั้น ต้องเลือกที่สะอาดและปลอดภัย ใหม่ สด คุณภาพดี นำมาย่อยจนขนาดเล็กละเอียด ไม่ระคายเคืองผิวหนัง
ของที่นำมาใช้พอกเพื่อบำรุงผิวได้ เช่น ว่านหางจระเข้ มะเขือเทศสุก ฝรั่ง แตงกวา มะม่วง แครอท กล้วย สัปปะรด มะขาม มะนาว ตำลึง
นำสมุนไพร ผัก ผลไม้ที่ต้องการ มาปั่นละเอียด (มะเขือเทศไม่ต้องปอก) สามารถกรองเอาน้ำมาใช้แทนโทนเนอร์ ส่วนเนื้อที่เหลือใช้เป็นมาส์กพอกหน้า
 แตงกวา และผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย เหมาะสำหรับคนผิวมัน เพราะมี AHAs ตามธรรมชาติอยู่มาก จะช่วยลดความมัน และกระชับรูขุมขนได้
 กล้วย ว่านหางจระเข้ มะม่วง แครอท แตงกวา เหมาะกับคนผิวแห้ง เนื่องจากให้ความชุ่มชื้น และทำให้ผิวสดใส ไม่แห้งหรือหมองคล้ำ
สมุนไพร ผัก ผลไม้ ก็อาจมีการแพ้ได้ วิธีทดสอบให้นำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาทาที่ท้องแขน ทิ้งไว้สักพัก ถ้าไม่คัน มีผื่น แสบร้อน ถือว่าไม่แพ้
 การใช้ผัก ผลไม้ สมุนไพรต้องใช้อย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผล ส่วนผสมต่าง ๆ สามารถปรับหรือ ผสมสูตรขึ้นมาใหม่ได้ตามชนิดผลไม้หรือผักที่มีอยู่
ระยะเวลาในการทำหรือพอกก่อนล้างออกนั้นไม่ได้ตายตัวขึ้นกับสภาพผิว คนที่ผิวแห้งหรือแพ้ง่ายควรใช้เวลาพอกน้อยกว่า เช่น เริ่มจาก 5 นาทีก่อน
การใช้ในช่วงแรกไม่ควรพอกหรือทาทิ้งไว้นานๆ โดยเฉพาะส่วนผสมที่มีกรดผลไม้ (มะขาม มะนาว สับปะรด) ต้องใช้ปริมาณน้อยๆและในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อน
คนผิวแห้งอาจผสมนมโยเกิร์ต ไข่แดง คนผิวมันอาจผสมน้ำมะนาวหรือน้ำส้ม ไข่ขาว ส่วนน้ำผึ้งสามารถเติมลงไปได้ทุกสภาพผิวเพื่อให้ความชุ่มชื้น
การใช้น้ำกรองจากผัก ผลไม้ สมุนไพร สามารถใช้ได้ทุกวันหลังล้างหน้า สำหรับส่วนผสมบดละเอียดใช้พอกแทนมาส์คสามารถใช้ได้ทุกสัปดาห์

การใช้ผ้าชุบน้ำเย็นจัดมาวางลงบนตาประมาณ 10-15 นาที จะช่วยให้เส้นเลือดรอบตาหดตัว ลดอาการบวมของตาจากการอดนอนหรือการร้องไห้ได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากผ้าชุบน้ำเย็นจัดแล้ว ถุงชา มะเขือเทศ หรือแตงกวาแช่เย็นนำมาหั่นเป็นแว่น ก็ใช้ลดการบวมช้ำจากการอดนอนหรือร้องไห้ได้เช่นกัน
ถ้าอดนอนจะมีระดับฮอร์โมนจากต่อมเหนือสมองผิดปกติ เกิดความเครียด การกินอาหารที่มีวิตะมินบีและซี เช่น ข้าวกล้อง ผัก ผลไม้สด จะเรียกพลังคืนมาได้
การอดนอนจะทำให้ร่างกายและผิวสูญเสียน้ำ ดังนั้นจึงต้องดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ ในตอนเช้า ทา moisturizer และ eye cream ที่เข้มข้น เพื่อให้ผิวสดใส
ไม่ควรอดนอนติดต่อกันเกิน 2 คน เพราะร่างกายจะเสียสมดุล เกิดความเครียด และทำให้แก่เร็ว ถ้าอดนอนเมื่อคืนนี้ไปแล้ว คืนนี้ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำ



ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถจะหยุดเวลาและอายุของคนเราได้ แต่ถ้าเราดูแลตัวเองอย่างดี ดูแลผิวพรรณอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เราดูอายุน้อยกว่าวัยจริงได้
การดูแลผิวเพื่อดูอ่อนวัยทำได้โดยการทา moisturizer และครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากผิวที่มีอายุคือผิวที่ขาดความชุ่มชื้นและมีจุดด่างดำ
 การทา moisturizer จะช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ลดการแห้งกร้าน และหมองคล้ำ ควรเลือกใช้ moisturizer ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเองและตามวัย
การทาครีมกันแดด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF>30 และค่า PA+++ ซึ่งป้องกันได้ทั้ง UVB และ UVA เพราะแสงแดดจะทำให้เกิดจุดด่างดำและริ้วรอย
เมื่อเริ่มมีริ้วรอยหรือความหมองคล้ำ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้หรือกรดวิตะมินเอ จะช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดริ้วรอยตื้น ๆได้
 ควรพักผ่อนให้เพียงพอ คนนอนดึก จะทำให้ผิวหนังอิดโรย หมองคล้ำ มีริ้วรอยก่อนวัย
ไม่ควรนอนตะแคงซุกหน้ากับหมอนหรือนอนก่ายหน้าผากจนทำให้เกิดรอยบนหน้า ถ้านอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นประจำ ร่องแก้มข้างนั้นจะลึกกว่าอีกข้าง
กินอาหารให้ครบ 5 หมู่เน้นผักผลไม้ที่มีวิตะมินซี เอ และอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวแข็งแรง และปกป้องผิวจากมลภาวะสิ่งแวดล้อมภายนอกได้
ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เบคอน เนย เพราะการเผาผลาญอาหารกลุ่มนี้ทำให้มีอนุมูลอิสระสูงทำลายผิว
งดอาหารหวานจัด หรือมีน้ำตาลสูง น้ำอัดลม เนื่องจากมีผลต่อการสร้างคอลลาเจนของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหย่อนยาน ไม่ตึงกระชับ
เครื่องดื่มทีมีคาเฟอีน จะทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น ถ้าติดกาแฟจนเลิกไม่ได้ หลังดื่มกาแฟอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปด้วย ผิวจะไม่ขาดน้ำ
เครื่องดื่่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้ผิวขาดน้ำ ไม่สดใสเปล่งปลั่ง และเหี่ยวย่นก่อนวัยได้เช่นกัน ควรงดดื่มอย่างเด็ดขาด และงดสูบบุหรี่ด้วย
ใช้ชีวิตอย่างสมดุล นอนพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหาร 5 หมู่ ออกกำลังกาย อย่าเครียดหรือหักโหมกับงานมากเกินไป อยู่กับครอบครัวหรือคนที่เรารัก
 มองโลกในแง่ดี ทำจิตใจให้แจ่มใส รู้จักเป็นผู้ให้และมีความสุขกับการให้ จะทำให้เราเป็นคนสวยจากภายในซึ่งสำคัญกว่าการสวยหรือดูดีจากภายนอก
เคล็ดลับหน้าเด็กที่สำคัญที่สุดคือ เลิกกังวลกับอายุ(และน้ำหนัก) ความกังวลหรือย้ำคิดย้ำทำจะทำให้เราแก่ขึ้นมาจริงๆมีความสุขกับตัวเองดีกว่า

คนผิวมันในช่วงหน้าหนาวอาจมีผิวบางส่วนแห้งตึงได้ การทา toner หลังล้างหน้าจะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า และทำให้ผิวดูดซึม moisturizer ได้ดีขึ้น
คนผิวแห้งในช่วงหน้าหนาว ผิวจะตึงและลอก เกิดการอักเสบและสิวจากการระคายเคืองได้ การใช้ moisturizer ที่มีส่วนผสมของ glycerin จะลดการระคายเคือง
ไม่ควรใช้สบู่ในการล้างหน้าช่วงหน้าหนาว เพราะสบู่มีความเป็นด่าง จะทำให้ผิวแห้งตึงได้ง่าย และไม่ควรใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ scrub ขัดหน้า
โรคผิวหนังที่มักจะเห่อขึ้นในหน้าหนาว : ภูมิแพ้ผิวหนัง seborrheic dermatitis รังแค สิวจากการระคายเคือง
คนที่มีรังแคมากช่วงหน้าหนาว อาจต้องลดความถี่ในการสระผมลง หรือใช้แชมพูขจัดรังแคในช่วงสั้น ๆ การสระผมบ่อยจะยิ่งทำให้หนังศีรษะแห้ง เป็นขุย






0 comments:

Post a Comment