ครีมสเตียรอยด์จะแบ่งเป็นระดับตามความแรงของยา ตั้งแต่ระดับความแรงน้อยไปจนถึงมาก การเลือกใช้จะดูตามอายุของคนไข้ บริเวณที่จะทา และโรคที่เป็น
เด็กอายุน้อยๆ และคนแก่อายุมากๆ มีผิวหนังบาง ควรใช้ครีมสเตียรอยด์ชนิดอ่อนเท่านั้น เพราะผิวหนังที่บางจะดูดซึมยาเข้าไปมาก และเกิดผลข้างเคียงได้
ถ้ามีผื่นผิวหนังบริเวณที่ผิวหนังบาง เช่น หน้า ควรใช้ครีมสเตียรอยด์ชนิดอ่อน แต่ถ้าเป็นบริเวณผิวหนังหนา เช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ควรใช้ครีมชนิดแรง
โรคผิวหนังที่ไม่ควรใช้สเตียรอยด์ เพราะทำให้ผื่นเห่อได้ เช่น สิว การติดเชื้อรา ผื่นผิวหนังอักเสบบนหน้าที่เกิดจากการติดครีมสเตียรอยด์
เมื่อทาครีมสเตียรอยด์บ่อยๆ บนหน้าจะเกิดอาการติดสเตียรอยด์ เมื่อหยุดยาหน้าจะแดงมีสิวผดเกิดขึ้น ดังนั้นคนที่มีสิวผดขึ้นฉับพลันต้องหาสาเหตุ
ครีมทาหน้าขาวหรือครีมรักษาฝ้าบางตัวจะมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ด้วย เมื่อใช้ไปนานๆ อาจเกิดภาวะติดสเตียรอยด์ได้เช่นกัน และเมื่อหยุดจะเกิดสิวผดได้
(1) วิธีการทดสอบว่าครีมที่ใช้มีสเตียรอยด์เป็นส่วนผสมหรือไม่ ทำได้โดยทาครีมที่สงสัยบนท้องแขนแล้วปิดพลาสเตอร์ทิ้งไว้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
(2) แกะพลาสเตอร์ที่ปิดไว้ออก สังเกตสีผิวบริเวณที่ทาครีม ถ้าสีผิวจางกว่าสีผิวที่ไม่ได้สัมผัสยา ให้สงสัยว่าครีมนั้นมีสเตียรอยด์เป็นส่วนผสม
การรักษาการติดครีมสเตียรอยด์หรือสิวผดที่เกิดจากการติดครีมสเตียรอยด์ทำได้ยาก ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษา เนื่องจากต้องปรับยาอย่างใกล้ชิด
ผลข้างเคียงจากการใช้ครีมสเตียรอยด์ คือ การมีเส้นเลือดขยาย เป็นสิว ผิวหนังเป็นวงขาว หรือบุ๋มลงไป มีขนขึ้นมากผิดปกติบริเวณที่ทายา
ถึงแม้ครีมสเตียรอยด์จะรักษาโรคผิวหนังได้หลายโรค แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีก็จะเกิดผลเสียได้มาก ถ้าต้องใช้ยานานติดต่อกันเกิน 1 เดือน ควรปรึกษาแพทย์
0 comments:
Post a Comment