Pages

Subscribe:

Knowledge is Power

สะสมความรู้ได้ทุกวัน

Friday, January 6, 2012

วิธีดูแลผิวยามน้ำท่วม

เมื่อน้ำท่วมน้ำจะพาสิ่งสกปรก สารเคมี เชื้อโรคให้แพร่กระจายปนอยู่ในน้ำที่ท่วมขัง แมลงต้องหนีน้ำออกจากที่อยู่เดิมมาอยู่ในที่แห้งร่วมกับมนุษย์
โรคผิวหนังที่พบในภาวะน้ำท่วม เช่น น้ำกัดเท้า การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราที่ผิวหนัง และโรคผิวหนังจากการสัมผัสแมลงและสัตว์มีพิษกัดต่อย
คนทั่วไปมักเข้าใจว่าน้ำกัดเท้าเกิดจากเชื้อราแต่ไม่เป็นจริงเสมอไป น้ำกัดเท้าเกิดจากการระคายเคืองของผิวหนังจากความเปียกชื้นและสารเคมีสิ่งสกปรก
น้ำกัดเท้าจะมีอาการผิวหนังเปื่อยลอก โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า มีผื่นแดง แสบคัน การหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำท่วมขัง จะช่วยป้องกันน้ำกัดเท้าได้
การรักษาน้ำกัดเท้าควรทายาแก้คัน แต่ไม่ควรใช้ยาฆ่าเชื้อราทาเพราะยาฆ่าเชื้อราบางชนิดทำให้ผิวหนังระคายเคืองมากขึ้น แสบ แดง ลอก คันมากขึ้นไปอีก
การติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่ผิวหนัง มักเกิดตามหลังภาวะน้ำกัดเท้า เพราะผิวที่เปื่อยยุ่ย ทำให้เชื้อต่าง ๆ เข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายขึ้น
คนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ตับแข็ง โลหิตจางธาลัสซีเมีย ควรระวังการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง เพราะจะรุนแรงลุกลามเร็วอันตรายถึงชีวิตได้
การติดเชื้อราที่ผิวหนังต้องทายาฆ่าเชื้อราต่อเนื่องอย่างน้อย 1 เดือน แม้ว่าผื่นจะดีขึ้นแล้วก็ไม่ควรหยุดทายาก่อน 1 เดือน เพราะเกลับป็นซ้ำได้
คนที่เป็นเชื้อราที่ผิวหนังไม่ควรทำความสะอาดบริเวณที่เป็นด้วยยาทาฆ่าเชื้อโรคอื่น ๆ เช่น alcohol เพราะทำให้ผิวแห้งและคันมากขึ้น
ช่วงน้ำท่วมต้องระวังแมลงมีพิษเช่น ตะขาบ แมลงป่อง หรืองูพิษ ถ้าถูกกัดต่อยควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด ยาลดบวม
ถ้าสงสัยว่าสัตว์มีพิษกัดแล้วยังไม่สามารถไปพบแพทย์ได้ต้องสังเกตสีและปริมาณของปัสสาวะอย่างน้อย1วัน ถ้าปัสสาวะลดลงหรือเป็นสีแดงต้องพบแพทย์ด่วน
ถ้าสัมผัสถูกน้ำท่วมขัง ต้องทำความสะอาดผิวหนังบริเวณนั้นด้วยน้ำสะอาดและสบู่ หลีกเลี่ยงการลุยน้ำถ้ามีแผลที่เท้า พยายามให้ผิวหนังแห้งอยู่เสมอ
ขอเอาใจช่วยผู้ประสบอุทกภัยทุกคน หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ทุกท่านดูแลตัวเองเบื้องต้นได้ ซึ่งจะลดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่จะตามมาได้

0 comments:

Post a Comment